วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

"เจี๊ยบ เลียบด่วน" เตือนสติ! แชร์ได้-ขำได้ แต่อย่าลืมต้นทางความเฮฮา แลกมาด้วยชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง"


"จากกรณีการจับกุมแก๊งฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มได้สดๆร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งภาพที่เผยแพร่ออกไป 1 ในผู้ต้องหาได้ถือหมอน 1 ใบที่สามารถนไมากางออกเป็นผ้าห่มได้ ซึ่งมีแม่ค้าหัวใส แอบเอสภาพมาเปรียบเทียบขายของซะงั้น ซึ่งบนโลกโซเชียลก็เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์ขึ้นต่างๆนาๆ ทั้งดีและไม่ดีล่าสุด เพจ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงประเด็นเรื่องการเนียนขายของ โดยระบุว่า...มอนิ่งงงงงงง
เช้าวันเปื่อยยย
ได้ข่าวจับ E Pure และคณะได้แล้วนี่
ตั้งแต่เมื่อคืน เห็นเล่นสนุกกันเต็มเพจ ทั้งเรื่องหน้าสด หมอนซุกมือ และอีกหลายอย่างสนุกกันไป 5555555
แต่สนุกกัน ฮากัน เรื่องสวยไม่สวย เรื่องเนียนขายของ ขายหมอนซุกมือ เรื่องขนม เรื่องหน้าสด
ก็อย่าเล่นกันจนลืมไปว่า
อีพวกคนที่เราล้อเล่นกันอยู่เฮฮา สื่อลงข่าวแม่งทุกแง่ทุกมุม แม้ทั่งรอยสัก ไลฟ์สไตล์ ชีวิตในตอนเด็กของมัน แต่งหน้าจนสร้างให้มันเหมือนเป็นดารา เป็นคนดัง ตอนนี้
ขนาดว่า
เสื้อแบบมันซื้อที่ไหน
หมอนแบบมันขายที่ไหน
แต่งหน้ายังไง
ผช.หื่นๆหน่อยก็ถึงขอคลิป เอารูปโป๊มันมาแลกดูกัน.... ไปถึงขนาดนั้นแล้ว
ลืมไปแล้วเหรอ
มันติดยา และฆ่า ผู้หญิง คนนึงอย่างโหดเหี้ยม ชำแหละ และเอาศพไปซุกหมกไว้ลวก แล้วก็กึ่งหนีกึ่งเที่ยว แบบไร้ความรู้สึก ไร้สำนึก สบายๆ เหมือนแม่งไปพักผ่อนนะ
จะขำ จะตลก ได้นะไม่ผิดหรอก
แต่ ผมขออย่างเดียวแหละ
จะทำภาพ ล้อเล่น ลัอเลียน จะสนุก จะเฮฮา จะตลก จะขำ อีดอกพวกนี้
ก็อย่าลืมแล้วกัน ว่า ...
ต้นทางของเรื่องที่ หลายคน กำลังตลก ขำ เฮฮาอยู่ในตอนนี้
แลกมาด้วย .... ชีวิต ผู้หญิงคนนึง!!!
ถ้าญาติพี่น้องพ่อแม่คนตาย มาเห็นพวกเรากำลังขำ สนุก เฮฮากะคนที่ฆ่าลูกเค้า ชำแหละ หั่นศพลูกเค้า ให้ความสำคัญ สนใจมันเหมือนเป็นดารา เค้าคงไม่ตลกด้วย
นะ
ขอแค่นี้แหละ :)
ป่วยแต่ไม่เคยหยุดรักนะ รู้ใช่มั้ย <3
loading...


www.nationtv.tv

เปิดภาพชุดระทึก! นาทีจับแก๊งหั่นศพ “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” สามสาวหมดสภาพ


วันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 3 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปยังฝั่งเมียนมา เพื่อควบคุมตัว น.ส.กวิตา ราชดา หรือ “เอิร์น” อายุ 25 ปี น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” อายุ 24 ปี และน.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร โดยจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 เข้ายังกรุงเทพ เพื่อทำการแถลงข่าวในเช้าวันนี้


คดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม เพราะเป็นคดีที่มีการก่อเหตุอย่างเหี้ยมโหด และผู้ลงมือยังเป็นผู้หญิง ทำให้ชื่อของ เปรี้ยว เอิร์น และแจ้ อยู่ในกระแสตลอดมา “ข่าวสดออนไลน์” รวบรวมภาพนาทีจับสามผู้ต้องหาสาวมาไว้ ณ ที่นี้
loading...









loading...



www.khaosod.co.m

วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อย่าตัดสินอะไร ถ้าไม่รู้ดีพอ




loading...
www.youtube.com

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2560

loading...


news.sanook.com


วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จับ วศิน ผัวเปรี้ยว เผยเปรี้ยวเอาถุงครอบหัว น้องแอ๋ม แล้วหั่น


loading...


www.youtube.com

ศาลสั่งประหาร"ไอ้ตั้ม-คู่หู"ฆ่าชิงไอโฟนบัณทิตมศว.


ศาลสั่งประหาร “ไอ้ตั้ม” พร้อมคู่หูฆ่าชิงไอโฟน “มะปิน” บัณฑิตมศว ชี้มีประวัติการก่ออาชญากรรมหลายครั้ง ยากแก่การปรับปรุงแก้ไขนิสัย และคำรับสารภาพเกิดจากการจำนนต่อพยานหลักฐาน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 903 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.125/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 และนางนิราภรณ์ เหลืองแจ่ม มารดาผู้เสียชีวิต ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกิตติกร หรือตั้ม วิกาหะ อายุ 26 ปี ชาว จ.สระแก้ว และนายสุพัฒชัย หรือเอ๊กซ์ จันทร์ศรี อายุ 25 ปี ชาว จ.อุทัยธานี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ ที่ตนกระทำผิดฯ, ฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 (7), 339 และ 371

คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 ระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2560 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ จำเลยที่ 1 ได้นั่งซ้อนท้ายรถ จยย.โดยมี จำเลยที่ 2 เป็นคนขี่ มาถึงบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 ถ.สุคนธสวัสดิ์ แขวง - เขตลาดพร้าว กทม. พบนายวศิน หรือมะปิน เหลืองแจ่ม บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร กำลังถือโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโฟน 6 ราคา 26,000 บาท จำเลยที่ 1 จึงใช้อาวุธมีดจี้ขู่เข็ญให้นายวศินยื่นโทรศัพท์ให้ แต่นายวศินต่อสู้ขัดขืน จึงถูกจำเลยใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายนายวศินอย่างแรงหลายครั้งตามร่างกาย และลำคอจนถึงแก่ความตาย แล้วชิงโทรศัพท์มือถือผู้ตายหลบหนีไป กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมของกลาง 5 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกครามดำเนินคดี โดยพนักงานอัยการได้คัดค้านการให้ประกันตัวด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนี และเป็นการกระทำผิดโดยอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน อีกทั้งหลังก่อเหตุคดีนี้ ในคืนเดียวกันทั้งสองยังได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในท้องที่ สน.โชคชัย และวิ่งราวทรัพย์ท้องที่ สน.โคกคราม รวม 3 คดี ซึ่งเป็นภัยต่อสังคม จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองสถานหนักด้วย

ชั้นพิจารณาจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ อัยการจึงนำพยานสองปากสืบประกอบคำรับสารภาพ คือพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อาคารบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม โดยตลอดการพิจารณาคดี จำเลยทั้งสองไม่ได้รับการประกันตัว โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสองมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขณะที่ น.ส.ศรุตา เหลืองแจ่ม พี่สาวของนายวศิน พร้อมสามี และบุคคลใกล้ชิดครอบครัวนายวศิน ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

ศาลพิเคราะห์พิเคราะห์คำรับสารภาพประกอบพยานที่โจทก์นำสืบแล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทแห่งหนึ่งเป็นพยานในที่เกิดเหตุเบิกความว่า เมื่อคืนวันที่ 4 ม.ค. 2560 เวลา 22.00 น. พยานเห็นหนึ่งในจำเลยฉุดกระชากนายวศินจนล้มลงและแทงหลายครั้ง พยานจึงวิ่งออกไปตะโกนห้าม ทำให้จำเลยทั้งสองซ้อนท้ายจักรยานยนต์หลบหนีไป และเข้าไปช่วยเหลือนายวศิน แต่นายวศินเสียเลือดมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ต่อมาพยานได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและชี้ตัวจำเลยทั้งสองได้ เนื่องจากสามารถจดจำใบหน้าของคนร้ายได้ชัดเจน ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ และผลการตรวจลายนิ้วมือแฝงได้จากหมวกกันน็อคของคนร้ายที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ มีดของกลาง และโทรศัพท์ที่ยึดได้ ตรงกับจำเลยทั้งสอง พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกันและไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน เชื่อว่าเบิกความไปตามความเป็นจริง เมื่อจับกุมจำเลยทั้งสองได้ พนักงานสอบสวนได้นำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พยานหลักฐานทั้งหมดจึงมีน้ำหนักมั่นคง

ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองกระทำความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษทุกกรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 (7), 339 และ 371 ในข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง ตามมาตรา 371 ให้ปรับคนละ 1,000 บาท ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญา และร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะฯ เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษประหารชีวิตข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ตามมาตรา 289 (7) ซึ่งเป็นบทหนักสุด และเมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์แล้ว จำเลยก่อเหตุร้ายแรง มีประวัติการก่ออาชญากรรมหลายครั้ง ยากแก่การปรับปรุงแก้ไขนิสัย และคำรับสารภาพเกิดจากการจำนนต่อพยานหลักฐาน จึงไม่มีเหตุลดโทษ ให้ประหารชีวิตสถานเดียว

ด้าน น.ส.ศรุตา เหลืองแจ่ม พี่สาวของนายวศิน กล่าวว่า ตนพอใจมากที่ศาลพิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้งสองคน และไม่มีการลดโทษ ส่วนจำเลยจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้นยังไม่ทราบ รายละเอียดขอคุยกับทนายความและทางบ้านก่อน เราเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีได้ผลดี ทำไม่ดีก็ได้ผลไม่ดี ใครทำอะไรก็ได้ผลอย่างนั้น ขณะนี้ทางเราก็คิดถึงคนที่เรารัก ทำใจว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา ถึงแม้จะโหดร้าย และที่พ่อแม่ของนายวศินไม่เดินทางมาในวันนี้ เพราะท่านไม่พร้อมเผชิญหน้าจำเลย

ส่วน น.อ.ประชา อยู่สำราญ ทนายความครอบครัวนายวศิน กล่าวว่า พอใจในวันนี้ที่ศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต ส่วนขั้นตอนต่อไปหากจำเลยประสงค์จะยื่นอุทธรณ์ ตนก็พร้อมที่จะแย้งอุทธรณ์ของจำเลย ซึ่งคิดว่าคดีนี้ถ้าหากฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ก็คงจะเป็นประเด็นในเรื่องของการขอลดโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกิตติกร จำเลยที่ 1 นั้นก่อนก่อเหตุคดีนี้ เคยมีประวัติโชกโชนโดยเคยต้องโทษเข้าเรือนจำมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งได้ก่อเหตุลักษณะคดีบุกรุก, ทำร้ายร่างกาย, ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยก่อนเกิดเหตุคดีนี้ นายกิตติกรได้ออกมาจากเรือนจำเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2559
loading...

ขณะที่ ระหว่างก่อเหตุชิงทรัพย์ไอโฟน เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2560 นายกิตติกร และนายสุพัฒชัย ยังได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์โดยขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนไปยังบริเวณใกล้เคียงซอยสุคนธ์สวัสดิ์ ต่อเนื่องตั้งแต่กลางดึก 4-5 ม.ค. 2560 ในพื้นที่ สน.โคกคราม และ สน.โชคชัย โดยพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญา 2 คดี และมีคำพิพากษาแล้ว ประกอบด้วยคดี หมายเลขดำ อ.262/2560 และหมายเลขแดง อ.230/2560 ที่อัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องทั้งสองคนในความผิดฐานร่วมกันพยายามวิ่งราวทรัพย์กระเป๋า ซึ่งมีมือถือเอไอเอส ยี่ห้อ ลาวา มูลค่า 3,500 บาท และเงินสด 150 บาทกับทรัพย์สินอื่นอีก 2 รายการของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335, 336 และ 336 ทวิ โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2560 จำเลยทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำพิพากษา วันที่ 31 ม.ค. 2560 ให้จำคุกคนละ 3 ปีตามมาตรา 336 วรรคแรก คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้จำคุกคนละ 1 ปี 6เดือน และให้นำโทษจำคุก 8 เดือนของ จำเลยทั้ง 2 ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี รอการลงโทษไว้นำมารวมกับคดีนี้ จึงรวมโทษจำคุกจำเลยทั้ง 2 เป็นคนละ 1 ปี 14 เดือน

และคดีหมายเลขดำ อ.685/2560 และหมายเลขแดง อ.971/2560 ที่อัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องทั้งสองคนในความผิดฐานร่วมกัน ชิงทรัพย์ โดยใช้อาวุธ มีดปลายแหลมยาว 33 ซ.ม. ลักเอาโทรศัพท์ไอโฟน 5 เอส มูลค่า 9,600 บาทของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิง ไปในเวลากลางคืนโดยจำเลยใช้กำลังกระชากแขนผู้เสียหายจนล้มกับพื้นแล้วใช้อาวุธมีด จี้เอาทรัพย์ไปโดยจำเลยได้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการหลบหนี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339,340 ตรี,371 โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2560 จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2560 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 15 ปีฐานชิงทรัพย์ตามมาตรา 339 วรรค2 และให้ปรับคนละ 1,000 บาทฐานร่วมกันนำอาวุธมีดเข้าไปในเมืองฯ จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุกคนละ 7 ปี เดือนและปรับคนละ 500 บาท และให้รวมโทษจำคุกคดีนี้กับคดีที่ศาลอาญาตัดสินแล้ว หมายเลขแดง อ.230/2560
www.thaipost.net

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จีนอาสาช่วยคิวบาจัดการปัญหาปูล้นเมือง !!


หอยนางรมล้นในเดนมาร์ก ชาวจีนอาสาจะแก้ปัญหาปู คิวบารวมตัวเต็มถนน ชาวจีนช่วยได้ !?

loading...
               หลังจากมีข่าวหอยนางรมล้นในเดนมาร์กจนชาวจีนอาสาที่จะช่วยแก้ปัญหา เมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวการแพร่กระจายตัวของปูเป็นจำนวนมากในบริเวณอ่าวหมู ประเทศคิวบา ซึ่งพากันรวมตัวข้ามถนนและไปวางไข่ริมทะเล โดยภาพขณะที่ปูหลายร้อยตัวกำลังข้ามถนนนั้นดูเยอะจนเต็มถนน ไม่มีที่ให้คนยืนเลยทีเดียว




อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเช่นกัน โดยมีหลายคนโพสต์ถามว่า “ปูเหล่านี้สามารถกินได้ไหม?” บางคนก็โพสต์ว่า “ช่วงฤดูร้อนไปกินหอยนางรมที่ริมหาดเดนมาร์ก ช่วงวันหยุดยาวในฤดูใบไม้ผลิก็ไปกินปูในคิวบา” บางคนก็แซวว่า “หอยนางรมกับปูในจีนถูกกินจนหมดแล้ว เลยหนีไปต่างประเทศกันหมด” และ “ถ้านำเข้าจีน แปปเดียวปูเหล่านี้ก็กลายเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว”

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อาวุธปืนที่หายากที่สุดในโลก


loading...


www.youtube.com