ในปี 2558 หลังจากปิดอุทยานทางทะเลไป 4 เดือนเต็ม ยอดนักท่องเที่ยวทั้งตรังและสตูลลดลงไปเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2557 มีนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน ขณะที่ปี 2559 ยังอยู่ที่ 9 แสนคนเท่านั้น ส่วนปี 2559 จะรักษาระดับ 1 ล้านคนไว้ให้ได้ ช่วงที่นักท่องเที่ยวในประเทศมาตรังและสตูลมากที่สุดจะเป็นช่วง เดือนมีนาคม-พฤษภาคม วางเป้าโตไว้ 8% โดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยว เป็นคนไทย 80% ต่างชาติ 20% จากสถิติในขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะเน้นขายทั้งแหล่งท่องเที่ยวและอาหารที่หลากหลาย เช่น มาตรังกินหมูย่าง ไปสตูล กินโรตีและชาชัก
ด้านนายสามารถ เจริญฤทธิ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดจองห้องพักตามโรงแรมและรีสอร์ตต่างๆแล้วกว่า 80% แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% และนักท่องเที่ยวในประเทศ 40 % นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่จะมาจากยุโรป สแกนดิเนเวีย และมาเลเซีย โดยมีจุดหมายตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะหลีเป๊ะ เกาะบุโหลนและเกาะอื่นๆ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ประกอบการเปิดเส้นทางเดินเรือ เชื่อมเส้นทางต่างๆ โดยในปี 2559 ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 20 %
นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล(อบจ.สตูล) เปิดเผยว่าในแต่ละปี อบจ.สตูลให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านบาท และมีส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว
นอกจากนี้ อบจ.สตูล มีโครงการสำคัญที่จะสร้างให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล คือ 1.สร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแบบครบวงจรในเฟสแรก ใช้งบก่อสร้าง 240 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 28 ไร่ เพื่อให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว จำหน่ายสินค้าโอท็อป อาหาร เครื่องดื่ม และเฟสที่ 2 จะมีการก่อสร้างห้องสัมมนาจำนวนหลายห้อง สามารถจุคนได้รวม 4,000 คน 2 .การก่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง ระยะทางเชื่อมต่อประมาณ 4-5 กิโลเมตร เพื่อลดปริมาณการจราจรเมืองสตูล ต้องบูรณาการกับหลายหน่วยงาน 3. การก่อสร้างสนามบินพาณิชย์สตูล ในอดีตมีสนามบินกองทัพอากาศ ปัจจุบันปล่อยทิ้งร้าง ทางจังหวัดสตูลมีความประสงค์สร้างสนามบินขึ้นมา แต่ติดขัดที่กองทัพยังไม่อนุญาตพื้นที่ หากมีสนามบินพาณิชย์สตูล จะเกิดประโยชน์ต่อการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ปัจจุบันคนสตูลและนักท่องเที่ยวขึ้นลงเครื่องบินที่สนามบินหาดใหญ่และสนามบินตรัง
ที่มา www.thansettakij.com/
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น