
แพทย์ระบุ สมองรับรู้ จ่อผลักดัน ลูกกับน้อง เข้าสู่วงการ
อาการ “ปอ-ทฤษฎี” กระเตื้องขึ้นอีก ผจก.ส่วนตัวเผยพระเอกดังขยับมือ-กะพริบตาคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น เหมือนรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามจะลืมตาเวลาได้ยินเสียงลูกสาวที่ไปเล่าเรื่องและเต้นอยู่ข้างเตียง ขณะที่หมอบอกข่าวดีสมองรับรู้ได้ ไม่พบเลือดออกในสำไส้ใหญ่ ส่วนขาขวาเลือดไปหล่อเลี้ยงดีขึ้น แต่ยังต้องระวังเรื่องติดเชื้อ ด้าน “น้องมะลิ-ปิน” ลูกและน้องชายปอ เนื้อหอมแมวมองรุม เล็งผลักดันเข้าวงการบันเทิง
หลังจากที่คณะแพทย์ออกประกาศฉบับที่ 15 ถึงอาการปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกหนุ่มที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก เริ่มมีอาการดีขึ้นสามารถกะพริบตาได้เอง และเริ่มหายใจได้เองบ้างแล้ว ทำให้ครอบครัวสหวงษ์และแฟนคลับเริ่มคลายความวิตกกังวลลงบ้าง ซึ่งความคืบหน้าอาการพระเอกหนุ่มตั้งแต่เช้าวันที่ 26 พ.ย. ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติโรคหัวใจ (CCU) ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ยังคงมีเหล่าบรรดาแฟนคลับรวมทั้งญาติพี่น้องและคนในวงการบันเทิงเข้ามาสอบถามอาการ พร้อมกับให้กำลังใจครอบครัวสหวงษ์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่หน้าห้องซีซียู นายสงวน นางพิสมัย สหวงษ์ พ่อแม่ปอ พร้อมด้วยนายวิทวัส สหวงษ์ หรือป๊อบปี้ น้องชายคนกลาง และนางแวนด้า สหวงษ์ หรือโบว์ ภรรยาปอ รวมทั้งนายน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการส่วนตัวปอ มีสีหน้ายิ้มแย้มคลายความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ต่างพากันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด จากนั้นเวลา 09.00 น.คณะแพทย์ที่ให้การรักษาเข้ามาตรวจอาการพระเอกหนุ่มภายในห้องซีซียู ก่อนที่พระสงฆ์จำนวน 1 รูปเข้ามาสวดเสริมบารมีและพูดคุยกับนายสงวน ต่อมาเวลา 11.00 น. ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อดีต รมว. สาธารณสุข ในฐานะที่ปรึกษาคณะแพทย์ที่ให้การรักษาเข้าไปตรวจอาการ ก่อนเดินทางกลับได้หารือกับญาติที่หน้าห้องซีซียู
ทั้งนี้ นายน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการปอ กล่าวว่า เมื่อคืนตนเข้าไปเยี่ยมปอในห้องซีซียู ได้เห็นหน้าปอเต็มๆครั้งแรก ไม่มีอะไรปิดกั้นแล้ว เหลือเพียงท่อช่วยหายใจ เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจให้ปอรับรู้ว่าทุกคนอยู่กับเขาตลอดและบอกว่า มีคนคิดถึงและเป็นห่วงมาก โดยระหว่างที่พูดคุยตนได้จับมือ ซึ่งปอขยับมือเหมือนกับรับรู้ ดวงตามีการ กะพริบ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่พูดไม่ได้ ได้บอกกับปอว่าต้องสู้ร่วมกับทีมแพทย์ เพราะทุกคนอยากให้ปอฟื้นกลับคืนมา การที่ปอขยับมือและกะพริบตาได้ ทำให้ตนดีใจมากจนน้ำตาไหล แสดงว่าปอเริ่มรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ก่อนที่จะกลับออกจากห้องและโบว์ ภรรยาได้เข้ามาดูแลต่อ โดยเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้โบว์ได้เล่าให้ตนฟังว่า ระหว่างพูดคุยกับสามี ปอมีการตอบสนองเช่นเดียวกันกับตน ทำให้ครอบครัวดีใจกันใหญ่
ผู้จัดการส่วนตัวพระเอกหนุ่มยังได้กล่าวถึงเรื่องที่พูดคุยกับ ศ.นพ.รัชตะว่า คุณหมอรัชตะเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด แพทย์ได้ส่องกล้องเข้าไปภายในลำไส้เพื่อตรวจดูอาการเลือดออกในลำไส้ใหญ่ ไม่พบว่ามีเลือดออกแต่อย่างใด ส่วนขาขวาที่เป็นห่วงว่าจะขาดเลือดและติดเชื้อนั้น พบว่ามีเลือดลงไปหล่อเลี้ยงได้ดีขึ้น แต่ต้องระวังการติดเชื้อใน 3-4 วันนี้ โดยมีแพทย์คอยประกบดูแลทุกวินาที ส่วนสายที่ห้อยระโยงระยางต่างๆนั้น ขณะนี้บางส่วนได้ถอดออกบ้างแล้ว โดยสรุปคุณหมอรัชตะบอกว่า อาการดีขึ้นมาก สมองสามารถรับรู้ได้แล้ว ใบหน้ามีน้ำมีนวลขึ้นเหมือนคนนอนหลับปกติ ก่อนหน้านี้หมอจะเป็นฝ่ายตั้งรับกับโรคที่แทรกซ้อน แต่ในสัปดาห์นี้ทีมแพทย์เป็นฝ่ายรุกที่จะเอาชนะโรคแทรกซ้อน รักษาโรคที่เกิดขึ้นและตอนนี้ก็สามารถควบคุมได้แล้ว
นายน้ำอ้อยกล่าวอีกว่า ญาติจะสับเปลี่ยนเข้าไปดูแล โดยเฉพาะโบว์ ภรรยาและน้องมะลิ ด.ญ.พาขวัญ ลูกสาว จะเข้าไปพูดคุยเล่าเรื่องเหตุการณ์ตอนที่ปอไม่รู้สึกตัว และอ่านคำอวยพรในสมุดเยี่ยมที่คนในวงการและแฟนคลับเขียนอวยพรไว้ให้ปอฟัง โดยน้องมะลิจะเต้นให้พ่อดูด้วย ขณะที่ปอซึ่งอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น พยายามที่จะลืมตา พร้อมกับขยับมือ เหมือนกับจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อมะลิเห็นพ่อขยับก็จะพูดออกมาว่า ฮู้ๆๆ พ่อขาๆๆ ตั้งแต่แพทย์ออกประกาศฉบับที่ 15 ทั้งนายสงวนและนางพิสมัย พ่อแม่ปอ มีสีหน้าและรอยยิ้มที่สดใสขึ้น แต่หากปอฟื้นขึ้นมาจะทำให้ครอบครัวยิ้มกว้างมากกว่าเดิม และเมื่อคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมา ครอบครัวได้ตัดเล็บของปอและผมใส่ในกระทงแล้วให้หลานนำไปลอยที่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อสะเดาะเคราะห์นำสิ่งร้ายๆ ให้ลอยไปกับกระทงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะขอพูดคุยกับภรรยาปอได้หรือไม่ นายน้ำอ้อยกล่าวว่า ขณะนี้โบว์ยังไม่พร้อมต้องคอยดูแลอาการสามีอยู่ตลอดเวลา คงต้องรอให้ปอมีอาการดีขึ้นจนสามารถออกมาแถลงข่าวร่วมกันได้ ส่วนไข้หวัดของน้องมะลิ ขณะนี้มีน้ำมูกอยู่เล็กน้อยเท่านั้น แพทย์ไม่อยากให้เข้าไปเยี่ยมพ่อในห้องเพราะกลัวติดเชื้อ จะให้เข้าไปได้ก็เพียงเวลาสั้นๆเท่านั้น
ผู้จัดการพระเอกหนุ่มยังกล่าวด้วยว่า ความน่ารัก ไร้เดียงสา ของน้องมะลิ ที่ทำให้ทุกคนที่เห็นมีความสุขและชื่นชมนั้น ขณะนี้มีเอเยนซี่และฝ่ายละครได้ติดต่อเข้ามาจะขอให้ไปเล่นละครและถ่ายโฆษณา แต่ครอบครัวยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ต้องรอให้พ่อปอมาตัดสินใจเอง เช่นเดียวกับนายชวนันท์ หรือปิน น้องชายคนสุดท้องของปอ มีผู้จัดละครเข้ามาติดต่อให้ไปเล่นเช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตลอดวันในไอจีของโบว์-แวนด้า ภรรยาของปอ มีการโพสต์ภาพพ่อลูก “ปอ” ขณะอุ้มน้องมะลิขณะอยู่ในวัยขวบเศษนั่งตัก พร้อมข้อความว่า “พ่อจ๋า หายไวๆ คิดถึง กลับ บ้าน” มีผู้ติดตามไอจีของโบว์ เข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจ ขอให้พระเอกหนุ่มหายจากอาการป่วยโดยเร็ว
ต่อมาในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเหล่าดาราคนในวงการบันเทิงเข้ามาเยี่ยมอาการปออย่างต่อเนื่อง อาทิ นริณี สิทธิสมาน ทีน-สราวุธ หมวย-สุกัญญา ไรวินท์ โบว์-เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ ญาญ่า-อุรัสยา ฯลฯ พร้อมด้วยผู้จัดการของชมพู่-อารยา นำสิ่งของมาเยี่ยมพร้อมกับสอบถามอาการพระเอกหนุ่มจากนายสงวน พ่อพระเอกหนุ่ม โดยญาญ่า-อุรัสยากล่าวว่า มาเยี่ยมอาการพี่ปอและได้พบกับน้องมะลิ เป็นเด็กน่ารักมาก หน้าคล้ายพี่ปอ ได้พูดคุยกับพ่อแม่พี่ปอ ทราบว่าอาการดีขึ้นก็ดีใจ และคิดว่าคนไทยทั่วประเทศน่าจะดีใจเหมือนกับตนเช่นกัน คิดว่าน่าจะมีข่าวดีในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ได้ให้กำลังใจครอบครัวพี่ปอ เมื่อรู้ข่าวว่า พี่ปอเข้าโรงพยาบาลรู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าอาการจะรุนแรงขนาดนี้ เคสของพี่ปอสะท้อนให้เห็นว่า เราต้องดูแลร่างกายให้ดี เวลาป่วยไข้ควรจะรีบไปพบแพทย์ พี่ปอเป็นคนดี ชอบสอนสิ่งต่างๆ เป็นเหมือนครูที่ทำให้ตนมีการพัฒนาเรื่องของการแสดง ขอให้พี่ปอสู้ๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้และรอการกลับมาของพี่ปออยู่
จากนั้นเวลา 16.00 น. น้องมะลิ หรือ ด.ญ.พาขวัญ สหวงษ์ วัย 2 ขวบ ลูกสาวพระเอกหนุ่มเดินทางเข้ามาที่โรงพยาบาล พร้อมกับวิ่งหยอกล้อกับผู้สื่อข่าว ก่อนเข้าไปเยี่ยมอาการพ่อภายในห้องซีซียู ขณะเดียวกัน นายน้ำอ้อย ผู้จัดการปอกล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ได้รับแจ้งจากเจี๊ยบ ลภัสรดา ทรัพย์สมบัติ แอดมิน ห้องแฟนคลับปอ-ทฤษฎี ว่ามีผู้แอบอ้างเอาอาการป่วยของปอไปหาผลประโยชน์ โดยมีพฤติกรรมประกาศทำเสื้อ สร้างพระ แอบอ้างว่า จะนำเงินมาช่วยครอบครัวปอ หรือนำเงินไปทำบุญให้ปอ โดยได้ส่งต่อๆ กันในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมและโลกออนไลน์ ขออย่าได้หลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะครอบครัวปอไม่มีการดำเนินกิจกรรม อย่างที่กล่าวมา ส่วนใหญ่แฟนคลับปอ หากจะช่วยปอ จะรวมกลุ่มไปทำบุญกันเอง ไม่มีการเรี่ยไรหรือทำเสื้อใดๆ ทั้งสิ้น
ล่าสุด นพ.มารุต จันทรา ผู้เชี่ยวชาญเวชบำบัดวิกฤติ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ หนึ่งในทีมแพทย์ที่ให้การรักษาปอกล่าวว่า ขณะนี้เลือดที่จะนำมาทำเกล็ดเลือดให้กับปอใกล้จะหมดลงแล้ว โดยไม่เฉพาะกรุ๊ปเอที่จะให้ปอเท่านั้น แต่ขอรับบริจาคเลือดทุกกรุ๊ปเพื่อให้คนไข้รายอื่นๆ ด้วย โดยสามารถมาบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาคเลือดชั้น 3 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาฯ หรือที่สภากาชาดไทยก็ได้เช่นกัน
ที่มา http://www.thairath.co.th/
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น