จับทิศราคาทองคำเดือนธันวาคม วายแอลจี ชี้ปัจจัยเฟดขึ้นดอกเบี้ยกดดัน ส่วนความตึงเครียดเหตุก่อการร้ายไม่มีผล แนวรับชี้ชะตา 17,800 บาทต่อบาททอง หากหลุดได้เห็น 16,900 บาท แนะเป็นจุดซื้อสะสม เตือนหากหลุด 16,100 บาท ชะลอลงทุน
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า วายแอลจีประเมินราคาทองคำจะยังคงถูกกดดันจากกระแสการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) ซึ่งราคาทองคำได้สร้างแนวโน้มขาลงมาโดยตลอด
เบื้องต้นประเมินแนวรับในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้ที่บริเวณ 1,050 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือประมาณ 17,800 บาทต่อบาททองคำ หากหลุดจะมีแนวรับสำคัญถัดไปในบริเวณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์หรือประมาณ 16,900 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำนักลงทุนระยะสั้นอาจต้องเน้นการเก็งกำไรในกรอบโดยใช้ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ประกอบการตัดสินใจลงทุน ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาว อาจใช้แนวรับดังกล่าวข้างต้นเป็นจุดสะสมซื้อทองคำ โดยอาจชะลอการถือทองคำหากราคาหลุด 950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 16,100 บาทต่อบาททองคำ สำหรับแนวต้านประเมินที่ 1,100 – 1,140 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือประมาณ 18,600 – 19,300 บาทต่อบาททองคำ
ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์โลกเริ่มตึงเครียดขึ้นต่อเนื่องจากการโจมตีกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ต่อมาตุรกีได้ยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกกลายเป็นประเด็นความตึงเครียดครั้งใหญ่จนทำให้นาโต้ออกมาแสดงความเห็นให้ใช้ความอดทนในการแก้ไขปัญหา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวพบว่ามีผลทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวเพียงเล็กน้อย โดยราคาทองคำไม่ตอบกระแสข่าวดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ วายแอลจีมองว่าประเด็นหลักของทิศทางความเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในขณะนี้ยังคงอยู่ที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด)ในช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากคงที่ในระดับ 0 – 0.25% มาเป็นระยะเวลายาวนาน ส่งผลให้ประเด็นอื่นๆที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำถูกลดความสำคัญลงไป
สำหรับราคาทองคำในประเทศยังคงมีปัจจัยค่าเงินบาทเข้ามาเกี่ยวข้อง จากการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไม่ทำให้ราคาทองคำในประเทศแตกต่างจากราคาทองคำต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา www.thansettakij.com/
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น