loading...
"สีจิ้นผิง" หวังการเยือนของ "โรดริโก ดูเตร์เต" ช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างสมบูรณ์ ด้านผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศ "แยกทาง" กับสหรัฐแล้วดูเตร์เตอยู่ระหว่างเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการนาน 4 วัน และเมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีจีนได้จัดกองทหารเกียรติยศต้อนรับผู้นำฟิลิปปินส์ซึ่งใส่สูทผูกเนคไทอย่างเรียบร้อย ภายนอกมหาศาลาประชาชนบนจัตุรัสเทียนอันเหมินของกรุงปักกิ่ง จากนั้นทั้งคู่ได้พบหารือกันที่มหาศาลาประชาชน
สีบอกกับดูเตร์เตว่า จีนและฟิลิปปินส์เป็นพี่น้องกัน และทั้งสองประเทศสามารถ "จัดการข้อพิพาทอย่างเหมาะสม" และเขาหวังว่าการเยือนของดูเตร์เตครั้งนี้เป็นโอกาสผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์กลับคืนสู่รากฐานที่เป็นมิตรและปรับปรุงสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่
ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์และจีนตึงเครียดนานหลายปี สืบเนื่องจากข้อพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะและสันดอนในทะเลจีนใต้ รัฐบาลของประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโน ซึ่งปฏิเสธจะแก้ไขข้อพิพาทผ่านเวทีทวิภาคีกับจีน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮก ซึ่งมีคำตัดสินเมื่อเดือน ก.ค. ว่าจีนไม่สามารถอ้างสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ แต่รัฐบาลจีนไม่ยอมรับ
ทว่านับแต่ดูเตร์เตเข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของฟิลิปปินส์ในวันที่ 30 มิ.ย. เขาได้เปลี่ยนทิศทางนโยบายจากรัฐบาลก่อน ด้วยการเปิดเจรจากับจีนเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ โดยหมายตาเงินลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน
loading...
หัวชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า ผู้นำทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการฉันมิตรและครอบคลุมหลายด้าน ทั้งยังเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือทวิภาคี 13 ฉบับ อาทิ ด้านธุรกิจ, โครงสร้างพื้นฐาน และการเกษตรคำแถลงของกระทรวงบอกด้วยว่า สีได้กล่าวต่อดูเตร์เตว่า ความรู้สึกของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและเป็นมิตรต่อกันไม่เคยเปลี่ยนแปลง และการหารือข้อปัญหายุ่งยากนั้นสามารถพักไว้ชั่วคราวก่อน ส่วนดูเตร์เตกล่าวถึงการพบปะกันครั้งนี้ว่าเป็น "ครั้งประวัติศาสตร์"
เวลาต่อมา ดูเตร์เตก็ประกาศในเวทีประชุมที่กรุงปักกิ่งว่า เขาขอแยกทางกับสหรัฐ เรียกเสียงปรบมือจากที่ประชุมแห่งนี้
เมื่อวันพุธ เขาได้พบปะชุมชนชาวฟิลิปปินส์ในจีน และได้ใช้คำหยาบเรียกหาประธานาธิบดีบารัค โอบามา อีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า สหรัฐอยู่ในฟิลิปปินส์เพื่อประโยชน์ของสหรัฐเอง จึงถึงเวลาที่สหรัฐต้องกล่าวอำลาฟิลิปปินส์แล้ว.
www.thaipost.net
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น