อย่างเช่นโรงงานผลิตไฟฟ้า ไบโอทูวัตต์ (Bio2Watt) ในแอฟริกาใต้ ที่เปลี่ยน “อึ” และเศษอาหารเหลือทิ้ง รวมทั้งกระดาษรีไซเคิลขยะประเภทเศษอาหารให้เป็นพลังงานไฟฟ้าป้อนโรงงานผลิตรถยนต์เยอรมันแบรนด์ อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ได้อย่างสบายๆ
นายสตีเฟ่น รูซ์ ผู้จัดการโครงการไบโอทูวัตต์ อธิบายว่า ในแต่ละวันที่โรงงานจะใช้อึราว 120 ตัน กระดาษรีไซเคิล 66 ตัน ผสมกันในถังหมักขนาด 9,000 ลูกบาศก์เมตร ภายในถังหมักจะมีเศษอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยในการย่อย ทั้งแบคทีเรียจากโยเกิร์ตเก่าๆ น้ำผลไม้และเศษของเหลือทิ้งจากโรงงานฆ่าสัตว์ เป็นตัวสร้างปฏิกิริยาการหมักในอุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส ตลอด 22 วัน เพื่อให้ได้ก๊าซมีเทนออกมา
โรงงานแห่งนี้เป็นผลงานของนายฌอน โทมัส เจ้าของโครงการชาวอังกฤษที่ใช้เวลา 8 ปีครึ่งในการดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่โครงการยังอยู่ในกระดาษจนกลายเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าสะอาดในแอฟริกาใต้
ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีวัตถุดิบในการผลิตก๊าซมีเทน เนื่องจากในบริเวณใกล้เคียงโรงงานนั้นมีฟาร์มขนาดใหญ่เลี้ยงปศุสัตว์ราว 4 หมื่นตัว ที่พร้อมจะผลิตอึออกมาทุกวันในปริมาณมากเพียงพอต่อการใช้หมักเพื่อสร้างก๊าซมีเทน ต้นทางของการกำเนิดไฟฟ้าที่ปลอดมลภาวะ
แม้ไบโอทูวัตต์จะเป็นแค่โรงงานผลิตไฟฟ้าเล็กๆ เมื่อเทียบกับเอสคอม (Eskom) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตไฟฟ้าของแอฟริกาใต้ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศที่ 85% พึ่งพาพลังงานต้นทุนจากถ่านหินในโรงไฟฟ้าที่ทั้งเก่าและล้าสมัยทั้งยังปล่อยก๊าซมลภาวะออกมามากมาย
นอกจากนั้นไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงงานไบโอทูวัตต์ยังได้รับการตอบรับจากโรงงานประกอบรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู ในเมืองใกล้เคียง ที่ต้องการไฟฟ้ามากถึง 12 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง แต่ในจำนวนนี้เป็นไฟฟ้าจากแหล่งผลิตสะอาดอย่างไบโอทูวัตต์ถึง 30% ทำให้โรงงานประกอบรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการใช้พลังงานสะอาดเพื่อร่วมลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทยุโรป ที่ในแผ่นดินแม่มีกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ที่มา http://www.komchadluek.net/
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น