วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความมั่นคงแอฟริกา:แอฟริกาใต้


ความมั่นคงแอฟริกา:แอฟริกาใต้ : มองมุมยุทธศาสตร์ โดยเรือรบ เมืองมั่น
                ได้มีโอกาสไปดูงานด้านความมั่นคงสองประเทศในแอฟริกามา ในตอนแรกนี้จะเขียนถึงสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ซึ่งมีกองทัพที่เข้มแข็งที่สุดในกาฬทวีปครับ

                แอฟริกาใต้เป็นประเทศเกิดใหม่ หลังจากปี 2537 ที่พรรคตัวแทนของคนผิวดำได้รับการยกเลิกการแบน ลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้คะแนนเสียงโหวตจากคนผิวดำจำนวนมหาศาล ให้ครองอำนาจบริหารประเทศมาจนทุกวันนี้ นับจากวันนั้นประเทศได้ก้าวสู่ยุคใหม่ หมดยุคเผด็จการเหยียดผิว เป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างนุ่มนวล ปราศจากการนองเลือด แอฟริกาใต้สามารถที่จะดำรงความเหนือกว่าชาติอื่นใดในทวีปแอฟริกา ส่วนหนึ่งก็ด้วยเพราะความต่อเนื่องของการพัฒนากองทัพให้มีขีดความสามารถล้ำสมัยอยู่เสมอและหลักคิดการป้องกันเชิงรุกที่ครอบคลุมพื้นที่ออกไปเกือบทั่วภาคพื้นทวีปและน่านน้ำอีกเป็นบริเวณกว้าง

                การที่กองทัพแอฟริกาใต้ตระหนักว่า อนาคตและความเจริญรุ่งเรืองของตนต้องผูกพันกับเสถียรภาพ เอกภาพและความผาสุกของทั้งทวีปนั้น กำหนดให้พวกเขาต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับวิกฤติต่างๆ ในแอฟริกาและวางกำลังป้องกันเชิงลึกในภารกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสงครามตามแบบหรือรูปแบบใหม่ ตลอดจนปฏิบัติการรักษาสันติภาพในที่ต่างๆ ทั้งนี้มีทั้งจัดกำลังเข้าไปในทั้ง คองโก บุรุนดี ไอวอรีโคสต์ ซูดาน และชายแดนเอธิโอเปีย/เอริเทรีย ขณะที่การลาดตระเวนทางน้ำ กินพื้นที่รอบเขตเศรษฐกิจ ทั้งมหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติก มีแนวทางวางว่า หากเกิดปัญหากระทบใดจะชิงบุกก่อน แต่ยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง
                การที่ไม่มีศึก เป็นประเทศเศรษฐกิจดี และให้ความสำคัญกับคนขาวในงานที่พวกเขาถนัด ทำให้การพัฒนาและวิจัยด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของแอฟริกาใต้เติบโตไปข้างหน้า อุตสาหกรรมทางทหารมีทั้งสาขาของบริษัทแม่ชั้นนำ เช่น ซาบ ของสวีเดน ผู้ผลิตกริพเพนให้ไทย ก็มาตั้งฐานผลิตด้านอุปกรณ์โซนาร์เรดาร์ที่นี่ ยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยที่ทีมวิจัยของรัฐวิสาหกิจแอฟริกาใต้ร่วมกับเอกชนผลิตได้เอง มีตั้งแต่ ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ ไปจนถึงการต่อเรือดำน้ำชั้น 209 เองได้นั้น น่าทึ่งมาก คุณภาพที่น่าเชื่อถือทำให้หลายชาติสนใจเป็นลูกค้าแอฟริกาใต้กันมาก รวมทั้งมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อนบ้านเราด้วย

                การที่แอฟริกาใต้เป็นชาติที่มีศักยภาพ มีความร่วมมือกับชาติบริกส์ด้วยกันอย่างจีน อินเดีย และบราซิล ทำให้ความพร้อมรบเกินกว่าปกติด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง เช่น งบประมาณที่ผ่านมาลดลงโดยตลอด ทำให้มีข้อจำกัดด้านการเข้าประจำการเรือหรือเครื่องบินใหม่ๆ นักบินขาดแคลน การบรรเทาสาธารณภัยก็ยังไม่ชำนาญ เพราะประเทศไม่มีภัยพิบัติตามธรรมชาติ ส่วนด้านภัยคุกคามรูปแบบใหม่ประเภทยาเสพติดหรือโจรสลัดนั้น มีอยู่บ้าง ที่น่าสังเกตคือ การที่ทหารผิวดำเริ่มมีอำนาจมากขึ้นในกองทัพ และการปรับปรุงหลักสูตรการทหารขั้นสูงสุดให้เรียนนาน 1 ปี น่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่น้อยในกองทัพ ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
 ที่มา  http://www.komchadluek.net/

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น