ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในโอกาสที่เขาจะทำหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐครบ 100 วันในวันเสาร์นี้ ในคำให้สัมภาษณ์ยาวนาน 42 นาที ทรัมป์ถูกตั้งคำถามถึงนโยบายด้านต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีและเอเชีย
"มีโอกาสที่เราจะเกิดความขัดแย้งรุนแรงมากๆ กับเกาหลีเหนืออย่างแน่นอน" ทรัมป์บอกกับรอยเตอร์ แต่เขาย้ำว่า เขาต้องการเห็นวิกฤติที่สร้างปัญหาแก่ผู้นำสหรัฐมาหลายยุคหลายสมัยนี้ยุติลงอย่างสันติ "เราอยากแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยการทูต แต่มันก็ยากมาก"
หนึ่งวันก่อนให้สัมภาษณ์ ทรัมป์และบรรดาที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเขาได้รายงานสรุปสถานการณ์ต่อบรรดาวุฒิสมาชิกเกี่ยวกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ รัฐบาลทรัมป์ยังได้ประกาศไว้ด้วยว่า เกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามเร่งด่วนต่อความมั่นคงแห่งชาติ และมีความสำคัญอันดับแรกด้านนโยบายต่างประเทศ สหรัฐจะเน้นกดดันเกาหลีเหนือในด้านเศรษฐกิจและการทูต อันรวมถึงการขอความร่วมมือจากจีน
เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐเคยกล่าวไว้ว่า สหรัฐยังเปิดทางเลือกทางทหารเพื่อใช้จัดการกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐก็ส่งสัญญาณถึงความพร้อมเจรจา
loading...
ทรัมป์ได้กล่าวยกย่องประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ซึ่งเขาได้พบหารือที่ฟลอริดาเมื่อต้นเดือนเมษายน ว่าประธานาธิบดีสีพยายามหนักมาก เพราะเขาไม่ต้องการเห็นความวุ่นวายและการล้มตาย สีรักประเทศและรักประชาชนชาวจีน
ผู้นำทั้งสองเพิ่งสนทนาทางโทรศัพท์กันอีกครั้งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสีย้ำว่าเขาต้องการเห็นการแก้ปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลีด้วยสันติวิธี
ความสัมพันธ์ที่ราบรื่นขึ้นระหว่างทรัมป์กับสี ทำให้ทรัมป์เปลี่ยนมาแสดงท่าทีเย็นชาต่อประธานาธิบดีไช่อิงเหวินของไต้หวัน ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ไว้เมื่อวันพุธว่า เธออาจต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับทรัมป์อีกครั้ง หลังจากเคยคุยกันเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้จีนไม่พอใจอย่างรุนแรงมาแล้ว
ทรัมป์กล่าวว่า ปัญหาสำหรับตนตอนนี้ก็คือ ตนได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ กับประธานาธิบดีสี และรู้สึกว่าสีกำลังทำทุกอย่างเท่าที่เขามีอำนาจ เพื่อช่วยเหลือสหรัฐในสถานการณ์ใหญ่ๆ ตนจึงไม่อยากสร้างความยุ่งยากใจแก่สีในตอนนี้
อย่างไรก็ดี แม้จะเลี่ยงประเด็นไต้หวันได้ แต่สหรัฐยังคงทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจกรณีการติดตั้งระบบป้องกันมิสไซล์ธาดของสหรัฐที่เกาหลีใต้ ซึ่งจีนคัดค้านอย่างรุนแรง กองทัพสหรัฐเพิ่งเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ของระบบนี้มาติดตั้งที่เมืองซองจูเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนกล่าวว่าระบบนี้จะพร้อมปฏิบัติการภายในไม่กี่วัน
ทรัมป์กล่าวถึงระบบธาดระหว่างให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ด้วยว่า เขาต้องการให้เกาหลีใต้ออกค่าใช้จ่ายสำหรับระบบธาด ที่เขาประเมินว่าอยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ (34,595 ล้านบาท) และเขายังต้องการเจรจาต่อรองใหม่หรือยกเลิกความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ เพราะสหรัฐเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ามหาศาล
เอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเกาหลีใต้จะไม่ออกค่าใช้จ่ายเอง เพราะข้อตกลงที่ว่าด้วยการคงกำลังทหารสหรัฐในเกาหลีใต้ระบุไว้ว่า เกาหลีใต้เป็นฝ่ายจัดหาสถานที่และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนสหรัฐออกค่าใช้จ่ายในการวางกำลังและปฏิบัติการ.
www.thaipost.net
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น